หัวรุนแรงคืออะไร? ถ้าเราแปลความหมายตามพจนานุกรรมฉบับราชบัณฑิตยสถานจะพบความหมายว่า
“น. เรียกคนที่มีความคิดเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเอาจริงเอาจังว่า คนหัวรุนแรง’’
แบบไหนที่จะเรียกว่าเป็นบุคคลหัวรุนแรง? ยิ่งในสภาพแวดล้อมในสังคมไทยที่เป็นสังคมที่อ่อนไหวต่อแนวความคิดต่างและการตั้งคำถามต่อสิ่งที่คาบเกี่ยวเรื่องของความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นทางสังคมการเมืองหรือศาสนา บุคคลที่แสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งต่อความเชื่อของคนส่วนมากหรือความเชื่อเดิมของสังคมไทยนั้นจะถูกมองว่าเป็นบุคคลที่หัวรุนแรง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว สังคมไทยกลับไม่มองว่าการแสดงออกทางความคิดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อมีการแสดงออกที่กระทบถึงความเชื่อของคนในสังคมไทยแล้ว สิ่งที่แสดงออกของคนในสังคมกลับหัวรุนแรงยิ่งกว่าผู้แสดงความคิดเห็น นั้นเป็นเพราะผู้คนในสังคมไม่พอใจการแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งต่อแนวความเชื่อของตน เราจึงพบเห็นได้จากเหตุการณ์ต่างๆเมื่อมีสิ่งที่ตกกระทบต่อความเชื่อของคนในสังคม ผู้คนในสังคมก็จะเริ่มแสดงพฤติกรรมทางความคิดที่รุนแรงขึ้น จากการด่าทอต่อผู้ที่แสดงความคิดเห็นที่ต่างออกไปจากตนจนนำไปสู่การล่าแม่มดและลามไปถึงการทำร้ายร่างกาย สุดท้ายแล้วก็ทำให้สังคมไทยเต็มไปด้วยความรุนแรงอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ในเมื่อสังคมเต็มไปด้วยความรุนแรง สิ่งที่ควรทำร่วมกันในสังคมคือทำความเข้าใจในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกว่าเป็นเช่นไรและทำอย่างไรถึงความคิดที่ต่างกันถึงจะอยู่ร่วมกันได้ นี้คือสิ่งที่ทุกคนต้องคิด
แท้จริงแล้วบุคคลที่หัวรุนแรงทางสังคมกลับไม่ใช่บุคคลที่แสดงความคิดเห็นที่แปลกแยก แต่เป็นบุคคลที่ทำร้ายคนที่ไม่เห็นด้วย ทำร้ายบุคคลที่มีอุดมการณ์ที่ต่างไปจากตน บุคคลที่คอยขัดขวางไม่ให้เกิดการแสดงออกทางความคิดเกิดขึ้นโดยใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ บุคคลเหล่านั้นแหละที่เป็นผู้ที่มีความคิดหัวรุนแรงอย่างแท้จริงและเป็นคนที่ทำให้สังคมไทยเกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไม่ใช่ผู้ที่คิดต่างจากหรือคนที่แสดงออกทางความคิดที่ขัดแย้งจากความเชื่อเดิม
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นที่ต่างไปจากเดิม แต่เป็นการปิดกั้นเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก เมื่อไม่มีสิทธิพูดไม่มีสิทธิคิดเสรีภาพและประชาธิปไตยนั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน