Quantcast
Channel: ข่าว
Viewing all articles
Browse latest Browse all 20494

บทวิเคราะห์: ท่านนายพล ผู้เป็นนายกรัฐมนตรี

$
0
0


ขอบคุณภาพจาก www.thairath.co.th/

นักวิเคราะห์การเมืองและวงการสื่อสารมวลชนหาเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของความเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ค่อยได้ ที่เห็นพยายามพูดกันมากคือ เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยในยุคหลังที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร แต่นั่นเป็นการตัดตอนประวัติศาสตร์แบบห้วนเกินไป พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่นายทหารคนแรกของไทยที่ยึดอำนาจรัฐบาลก่อนแล้วมาเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง

จอมพล ป.พิบูลสงคราม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และจอมพลถนอม กิตติขจร ได้ทำสิ่งนี้มาก่อนแล้ว ทั้งสามท่านเป็นจอมเผด็จการและพาประเทศชาติเข้าสู่ความยากลำบากทั้งสิ้น สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ทำไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ท่านทำสิ่งที่แตกต่างจากการรัฐประหาร 2 ครั้งก่อนหน้า คือ ในปี 2534 และ 2549 เพียงเล็กน้อยเท่านั้นคือ ผู้นำการรัฐประหาร 2 ชุดก่อนจะไม่เข้าบริหารประเทศด้วยตนเอง หากแต่ไปเชิญคนอื่นมาทำแทน ผลเป็นอย่างไร เราทราบกันหมดแล้ว

แม้ว่าจะมีความพยายามจากพวกปัญญาชนจำนวนหนึ่งในอันที่จะเขียนภาพของพลเอกประยุทธ์ให้เป็นคนที่มีลักษณะโดดเด่น ทั้งในแง่สติปัญญา ความสามารถ และบุญบารมี พอที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นความหวังในอันที่จะสร้างประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าวัฒนาสถาพร แต่ความพยายามนั้นก็ยังไม่ประสบผล เรียกได้ว่ายังไม่โดน ด้วยว่าประวัติส่วนตัวของนายทหารท่านนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างพิเศษไปกว่า ผู้บัญชาการทหารธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง ความที่ว่าท่านเป็นนายทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวรกลับชาติมาเกิดนั้น ก็ดูลิเกมากไปหน่อย วาทกรรมทางการเมืองแบบนี้คงเหมาะกับประเทศไทยก่อนยุคปี พ.ศ.2500 มากกว่า คงจะใช้ไม่ได้ผลในยุคสมัยปัจจุบัน แม้ว่าคนไทยจำนวนหนึ่งจะยังเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง แต่คนจำนวนมากคงคิดว่า นี่เป็นนิทานคืนความสุขให้ประชาชน มากกว่าจะเห็นเป็นเรื่องจริงจัง


ขอบคุณภาพจากมติชน http://www.matichon.co.th/


เอกสารในปางอดีตแผ่นเดียว (ซึ่งก็ยังไม่มีใครตรวจสอบจริงจังว่าจริงหรือเปล่า) คือ คอลัมน์เรียนดีในวารสารชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นวารสารสำหรับนักเรียนสมัยโน้นที่ว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยเป็นบุคคลที่มีความสามารถทางการศึกษามากขนาดสอบได้ไม่เคยต่ำว่า 80 เปอร์เซ็นต์เลย แต่ถ้าจะว่าไปแล้ว สมมติว่านี่เป็นเรื่องจริง นักเรียนที่สอบได้ไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในประเทศไทยมีอยู่ออกเกร่อไป มากกว่านี้ก็พบว่ามีอยู่ไม่น้อยในรุ่นของท่าน มีคนเรียนดีกว่านี้อีกมาก แต่ส่วนใหญ่เลือกจะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยมากกว่าจะสอบเข้าโรงเรียนทหาร เด็กชายประยุทธ์เลือกสอบเป็นทหารก็คงไม่ใช่เพราะหวังว่าได้มากอบกู้บ้านเมืองอะไร อาจจะคิดแค่ว่าอยากจะรับใช้ชาติบ้านเมืองเหมือนพ่อที่เป็นทหาร นายทหารหลายคนที่ได้มาเป็นทหารก็เพราะมีพ่อเป็นทหาร ลูกทหารที่สอบเข้าโรงเรียนทหารได้ไม่ค่อยจะเป็นเรื่องพิเศษโดดเด่นอะไร ในสมัยของท่านนั้นคนที่เป็นลูกทหารจะได้คะแนนพิเศษในการสอบเป็นแต้มต่อลูกชาวนาอยู่แล้ว นี่เป็นระบบคัดเลือกบุคคลากรเข้าสู่การเป็นทหารอาชีพแบบไทยๆ

ประการสำคัญ พลเอกประยุทธ์ไม่เคยแสดงตัวว่าเป็นผู้มีสติปัญญาเปรื่องปราชญ์อะไรเลย ความจริงเรื่องการยกย่องสติปัญญาของนายทหารนั้น ก็เป็นเรื่องประจบสอพลอในกันวงการธรรมดาๆ ทั่วไปเท่านั้น เพราะผู้ที่เคยได้ฉายาว่าเป็นขงเบ้งแห่งกองทัพไทย ตอนหลังๆ คนทั่วไปก็เห็นท่านเป็นตัวตลกมากกว่าจะเป็นปราชญ์

แน่นอนในกองทัพไทยคงจะมีนายทหารที่มีสติปัญญาสูงล้ำอยู่ไม่น้อย พลเอกประยุทธ์อาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนนั้นก็ได้ เพียงแต่ตอนนี้ท่านไม่ค่อยแสดงออกว่าท่านอยู่ในกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ แต่ประเด็นสำคัญที่สังคมจะต้องพิจารณาเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย ที่มาจากการหล่อหลอมของกองทัพไทยและครอบครัวทหารของท่านเองนั้น มีความสามารถและสติปัญญามากพอจะนำพา และบริหารประเทศไปสู่เป้าหมายและความเจริญรุ่งเรืองและวัฒนาถาวรได้เพียงใด




จอมพลป. พิบูลสงคราม (ขอบคุณภาพจาก http://www.reurnthai.com

ความจริงสังคมไทยก็ควรจะได้ข้อยุติในปัญหานี้มานานแล้ว ว่าทหารบริหารประเทศไม่ได้ ทักษะทางการยุทธ์ไม่สามารถประยุกต์ใช้ในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะกับสังคมเปิดที่หลากหลาย และระบบเศรษฐกิจที่มีความสลับซับซ้อน นั่นเป็นเหตุผลด้วยว่า ทำไมผู้นำการรัฐประหารที่ยึดอำนาจได้ในยุคหลังๆ จึงไม่กล้าพอจะเข้าบริหารประเทศด้วยตนเอง การรัฐประหารครั้งก่อนนั้นผู้ยึดอำนาจเลือกอดีตผู้บังคับบัญชาของตัวเอง ซึ่งก็เป็นนายทหารเหมือนกันให้เข้าบริหารประเทศ ผลปรากฏว่าล้มเหลวในทุกด้าน แต่ความล้มเหลวในครั้งนั้นกลับทำให้พลเอกประยุทธ์สรุปบทเรียนผิด ด้วยเข้าใจว่าให้คนอื่นทำแล้วไม่ได้อย่างใจ สู้ทำเองจะดีกว่า สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ไม่ได้พิจารณาเลยก็คือ กำลังและความสามารถของคนที่ผ่านการฝึกอบรมทางทหารมาต่างหาก

หัวใจสุดยอดของวิชาทหารที่ฝึกอบรมคนให้ออกมาเป็นทหารอาชีพคือ การจัดการความรุนแรง (management of violence) หลักสูตรโรงเรียนนายทหารของไทยส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เน้นไปในทางเทคนิคต่างๆ เพื่อประโยชน์ของการจัดการความรุนแรงทั้งนั้น ไม่ใช่เพื่อการบริหารประเทศ การปรับปรุงหลักสูตรในระยะหลังๆ มีการนำวิชาของพลเรือนเข้าไปเรียนมากขึ้น ตัวอย่างของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าในสมัยที่พลเอกประยุทธ์เรียน ก็มีให้เลือกเรียนในสายวิทยาศาสตร์ เช่น ฟิสิกส์ และวิศวกรรมต่างๆ เช่น วิศวกรรมโยธา ไฟฟ้า วิศวกรรมสรรพาวุธ หรือแม้แต่สังคมศาสตร์ แต่ก็เป็นวิชาเลือกที่เน้นเรื่องเทคนิคเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าปัจจุบันจะมีการปรับปรุงวิชาการเทคนิคเหล่านั้นให้ได้มาตรฐานเดียวกับที่พลเรือนเรียน เช่น วิศวกรรมก็อยู่ในมาตรฐานที่นายทหารเหล่านั้นสามารถนำไปเป็นหลักฐานขอใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมได้ แบบเดียวกับผู้ที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วไป แต่นั่นก็ยังไม่ใช่พื้นฐานความรู้สำหรับการบริหารประเทศอยู่ดี

ภาระหน้าที่ของทหารอาชีพคือ การป้องกันประเทศและรักษาความมั่นคง แต่เนื่องจากทหารไทยนั้นเกี่ยวข้องและมีโอกาสเข้าสู่การเมืองการปกครองประเทศอยู่เสมอๆ และถูกวิพากษ์วิจารณ์มากว่า ความมั่นคงในความหมายแคบๆ แบบทหารนั้นใช้ประยุกต์กับการบริหารประเทศไม่ได้ กองทัพไทยและวิทยาลัยทหารชั้นสูงจึงได้ปรับการศึกษาเรื่องความมั่นคงให้กว้างขวางมากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจความมั่นคงทางการเมือง เสถียรภาพทางการเมือง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แต่วิชาความรู้เหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อจะสร้างความชอบธรรมให้กับบทบาทของกองทัพ และนายทหารที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของพลเรือนเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำให้บุคลากรของกองทัพมีความสามารถในการบริหารกิจการเหล่านั้นของประเทศได้ นายทหารอาจจะมีความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ แต่ในวงการทหารก็พูดกันเสมอๆ ว่า “ทหารไทยนั้นตักน้ำเปล่ามาหาบขายก็ยังขาดทุน” อย่าว่าแต่ไปนั่งบริหารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่มีความสลับซับซ้อน และต้องแข่งขันกับธุรกิจต่างประเทศอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เลย
 


จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ (ขอบคุณภาพจาก http://board.postjung.com/


จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้ยินพลเอกประยุทธ์ ซึ่งบัดนี้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะพูดว่า ชาวสวนยางพาราอย่าเรียกร้องราคายางพาราสูงนัก ไม่มีใครให้ได้ หรือ อย่าผลิตมากนัก เพราะราคาจะตก เพราะท่านไม่ทราบว่า เกษตรกรไทยกำหนดราคาสินค้าของตัวเองไม่ได้ แรงกดดันด้านราคาจากตลาดโลกมีผลสำคัญต่อราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศ ท่านเรียกร้องให้เกษตรกรเลิกปลูกยางและไปปลูกอย่างอื่นแทน เพราะท่านไม่รู้เลยว่า ยางพารานั้นเป็นไม้ยืนต้น ปลูกนานถึง 7 ปี จึงจะเริ่มให้ผลผลิตได้ เกษตรกรชาวสวนยางนั้นเมื่อลงทุนปลูกยางและรอคอยจนได้ผลผลิต มักจะเหลือทางเลือกอย่างอื่นน้อยมาก บางรายนั้นสวนยางซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก คือแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียวของพวกเขา การเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นจึงไม่ง่าย ใช้เวลาและต้องตกอยู่ในความเสี่ยงมากมาย

พลเอกประยุทธ์ชอบพูดว่า เราจะต้องพิจารณาปัญหาโดยองค์รวม และหาทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ แต่เวลาท่านยกประเด็นปัญหาต่างๆ มาอธิบาย ท่านกลับยกขึ้นมาเป็นจุดๆ และกระโดดข้ามไปมาอย่างไม่เป็นระบบ ชาวบ้านทั่วๆ ไปฟังท่านพูดก็ได้อารมณ์แบบฟังพวกตลกเล่นมุกกัน ปัญญาชนฟังแล้วคงจะสับสนไม่น้อยว่า ตกลงแล้ว ปัญหาแต่ละอย่างนั้นมันจะแก้อย่างไร แนวทางเป็นอย่างไร ดูเหมือนท่านจะฝากความหวังไว้กับหน่วยราชการต่างๆ ทั้งหมด แต่ขณะเดียวกันท่านก็ตำหนิหน่วยราชการต่างๆ ว่า ทำงานไม่เอาไหน ปล่อยปละละเลยให้เกิดปัญหาหมักหมมมานมนาน

สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้บริหารประเทศไม่ค่อยแสดง (หรือท่านอาจจะไม่มี) คือ วิสัยทัศน์ที่จะมองอนาคตของประเทศว่า ประเทศไทยภายใต้การบริหารงานของท่านนับต่อจากนี้ไป จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ท่านพูดว่าจะต้องมีความสงบสุข นั่นเป็นภารกิจของทหารแน่นอนที่จะทำให้ประเทศชาติสงบปลอดภัย แต่ประชาชนคงจะใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างสงบ โดยไม่มีความหวังว่า วันข้างหน้าพวกเขาจะเป็นอย่างไร ลูกหลานจะเป็นอย่างไร และประเทศชาติจะเป็นอย่างไร คงไม่ได้

พลเอกประยุทธ์อยู่ในวัย 60 ปี ครบเกษียณอายุราชการสิ้นเดือนกันยายนนี้ คนในวัยนี้ในทางกายภาพแล้วถือว่าหมดสมรรถภาพ และไม่สามารถเรียนรู้อะไรได้ทันแก่การใช้งานแล้ว สมควรจะต้องพักผ่อน แต่ท่านต้องเข้ารับภาระในฐานะนายกรัฐมนตรี เพื่อวางรากฐานให้กับประชาธิปไตยสมบูรณ์ของไทย (ซึ่งจนบัดนี้ยังไม่มีใครตอบได้ว่า แปลว่าอะไร หน้าตาเป็นอย่างไร) ทำให้จำเป็นจะต้องศึกษาหาความรู้ และทดลองสิ่งต่างๆ อีกมากมาย แม้หลายคนที่อ้างว่าเคยทำงานใกล้ชิดจะบอกว่า พลเอกประยุทธ์เป็นคนที่เปิดกว้างและพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ แต่จากการที่ท่านได้แสดงความคิดความเห็นในรายการทุกเย็นวันศุกร์มาหลายเวลาแล้ว ดูเหมือนสิ่งที่ท่านแสดงต่อสาธารณะ จะไม่ค่อยสนับสนุนข้ออ้างเช่นนั้นเท่าใดนัก พลเอกประยุทธ์ผ่านการฝึกอบรมแบบทหาร และอยู่ในวินัยทหารมาตลอด นายทหารถูกฝึกมาให้ออกคำสั่งและบังคับบัญชา ไม่ได้ฝึกมารับฟังความเห็นใคร


จอมพลถนอม กิตติขจร (ขอบคุณภาพจาก http://sanamluang2008.blogspot.com/

ภาระหน้าที่ของผู้บัญชาการทหาร กับ นายกรัฐมนตรีนั้นต่างกันมาก ผู้บัญชาการทหารดูแลทหาร สั่งการทหาร เพื่อบรรลุเป้าหมายทางทหารแคบๆ สั้นๆ ว่าทำอย่างไรจะเอาชนะข้าศึกได้ แม่ทัพนั้นไม่จำเป็นแม้แต่จะต้องคิดว่า ประเทศชาติควรเข้าสู่สงครามใดหรือไม่ แต่สิ่งที่แม่ทัพต้องคิดคือ เมื่อมีสงครามแล้ว ทำอย่างไรจะเอาชนะได้ และป้องกันความสูญเสียไม่ให้เกิดกับพลเรือนและกำลังพลฝ่ายตน การตัดสินใจอย่างอื่นเป็นเรื่องของฝ่ายนโยบาย

นายกรัฐมนตรีนั้นต้องรู้และทำได้มากกว่าผู้บัญชาการทหาร เพราะต้องรับผิดชอบต่อความเป็นไปของประเทศ โดยเฉพาะในประเทศซึ่งมีคนอยู่หลายหมู่หลายเหล่า มีความต้องการแตกต่างหลากหลายมาก ที่สำคัญประชาชนไม่ใช่ศัตรูของชาติ สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องทั้งหมดจะต้องได้รับการตอบสนองในทางบวกเสมอ หน้าที่ของนายกรัฐมนตรีคือ ไกล่เกลี่ย เจรจา ประนีประนอม ความต้องการเหล่านั้นของประชาชน บนพื้นฐานความจริงข้อสำคัญที่ว่า ทรัพยากรมีจำกัด

นายกรัฐมนตรีสั่งการได้เฉพาะหน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้สังกัดและขอบเขตอำนาจของตัวเองเท่านั้น นายกรัฐมนตรีสั่งให้เกษตรกรเลิกปลูกยาง หรือตัดต้นยางของตัวเองทิ้งไม่ได้ แต่มีหน้าที่แสวงหาและจัดสรรทรัพยากรมาช่วยเหลือ ค้ำจุน พวกเขา ให้สามารถประกอบอาชีพไปได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอ

เมื่อนายทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องละทิ้งความเคยชิน ภาระหน้าที่ และวิธีการแบบทหารไปเสีย และทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีให้ถูกต้องเหมาะสม จึงจะทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ ความคิดที่จะเปลี่ยนประเทศให้เป็นแค่กองทัพ ประชาชนเป็นแค่กำลังพลภายใต้บังคับบัญชานั้น เป็นการทำลายชาติ ไม่ใช่สร้างหรือพัฒนาชาติ

 

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: http://tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=4789

 

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

Viewing all articles
Browse latest Browse all 20494

Trending Articles


ทริป Full Nude น้องการ์ฟิลด์ จากนิตยสาร Penthouse อาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 55


SUBA ประกาศคืนชีพ Dream of Mirror Online เตรียมย้อนความทรงจำในเซิร์ฟเวอร์ NA


มีคนชวนเทรดเว็บนี้ https://e-exchangemarketret.com/m/index...


รหัสโอนเงิน tr to NATID คือ อะไรครับ


“ชาคริต-อ้อม”เสิร์ฟXX ทีเซอร์แรก แม่เบี้ย


“โรคตุ่มน้ำพอง หรือ โรคเพมฟิกอยด์” อาการเป็นอย่างไร พร้อมวิธีป้องกันและดูแลรักษา


สอนการ Merge & Center ของ File Microsoft Excel


20 ไอเดียรอยสักความหมายของการเริ่มต้นใหม่!


6 ดาราหน้าสด ฉบับนางเอกจีน พังไม่พัง รอดไม่รอด!?!?


ใส่สีพื้นหลังของเซลล์ Excel เปลี่ยนความจำเจของสีพื้นหลัง


แจกภาพพื้นหลัง iPhone สวยๆ (อัปเดต) หลายภาพหลายรูปแบบ


ใครรู้จักบริษัท the singular group บ้างครับ...


ใช้บัตร M Pass ถ้าจะนั่งที่นั่ง Honeymoon,Opera Chair...


น้องแนทเกศริน ดาวโป๊สุดHot เต้นยั่ว กับชุดสีฟ้า sexy


NEW ISUZU 2025-2026 ราคารถ อีซูซุ


ดาวน์โหลด โกงเกม RoV: Mobile MOBA บน android และ ios ฟรี


ข่าวดี! กศจ.ชัยภูมิ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบ2 จำนวน 216 อัตรา - รายงานตัว 1...


จื่อวี มักเน่แห่ง TWICE ทายาทเศรษฐีไต้หวัน ยืนหนึ่งในไอดอล และสวยติดอันดับ 1...


สรุปทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Pivot Table


เล่นแร่แปรสูตร : การแปลงวันที่ Text ให้เป็นวันที่ Date