ไม่ได้จะโหนสุชาติ สวัสดิ์ศรี แต่ในเวลานี้ เราต้องการ "สติและน้ำใจ" (คำของอาจารย์หนุ่มที่รักและนับถือของผมคนหนึ่ง) เมื่อได้อ่านข้อเขียนของสุชาติเกี่ยวกับท่าทีต่อการรัฐประหารครั้งนี้ (ขอบคุณอาจารย์ที่เคารพรักท่านหนึ่งที่ส่งมาให้) ทำให้ผมอยากเขียนถึงบางส่วนของประสบการณ์ที่สุชาติเล่าในการเสวนาเรื่อง สัจนิยมมหัศจรรย์ตั้งแต่คืนวันก่อนรัฐประหาร
สุชาติเล่าว่า เขาทำงานหนังสือร่วมกับ "พวกซ้าย"ตั้งแต่ปี 2515 แต่พวกซ้ายอ่านงานเขียนของเขาไม่รู้เรื่อง เพราะมองไม่เห็นชัยชนะของประชาชนในนั้น สุชาติเล่าว่าเขาถูกพวกซ้ายต่อว่าว่าเขาเป็น malady of the century "โรคประจำศตวรรษ"เขากล่าวในคำของเขาเองว่า "พวกซ้ายไม่รู่จะทำอย่างไรกับงานประเภทที่ตื่นเช้าแล้วเจอศพในตู้เสื้อผ้า ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 7 แล้วไม่เจอชั้น 7"
สุชาติเล่าต่อว่า ช่วงนั้นเต็มไปด้วยงาน "เพื่อชีวิต"ไม่มีงานแปลดอสโตเยฟสกี มีแต่งานกอร์กี เพื่อนฝรั่งสมัยนั้นบอกว่า งานพวก socialist realism น่าเบื่อที่สุด ถ้าทำไม่ดีจะกลายเป็นงานโฆษณาชวนเชื่อ ตอนทำ "ช่อการะเกด"หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 สุชาติเล่าต่อว่า เขาพยายามหาอะไรใหม่ๆ แต่อิทธิพลเก่าของพวกซ้ายมีมาก งานเขียนยุคนั้นจึงกลายเป็น cliché ของฝ่ายซ้าย (ที่ผมอยากเรียกว่า "ซ้ายกากๆ")
หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ หนังสือที่สุชาติหยิบติดมือไปอ่านระหว่างหลบภัยแผนปฏิรูปประเทศ 12 ปีของธานินทร์ กรัยวิเชียร (รัฐบาลหอย) ในป่าคอนกรีตคือ "หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว"ของกาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ ที่เขาอ่านค้างไว้อย่างตื่นเต้น แน่นอนว่าขณะนั้นยังไม่มีฉบับแปลภาษาไทยของหนังสือเล่มนี้ สุชาติซื้อ 100 ปีฯ ฉบับแปลภาษาอังกฤษมาจากร้านดวงกมล
สุชาติเล่าว่า หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงให้แนวทางที่หลุดไปจากอิทธิพลของพวกซ้าย แต่ยังเข้ากับความรู้สึกของเขาตอนนั้น คือความรู้สึก solitude (โดดเดี่ยวระคนหดหู่) ในคำของเขาเองคือ "คิดถึงเพื่อนในป่าว่า คงอีกหนึ่งร้อยปีจึงจะกลับมาดื่มเบียร์ที่สนามหลวงได้อีก มันหดหู่"
สุชาติ เล่าต่อว่า "66/23 (นโยบายสมัยเปรม ติณสูลานนท์ ที่ให้นักศึกษา นักกิจกรรมที่เข้าป่าหรือหลบซ่อนอยู่ กลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย) ทำให้ 'เพื่อชีวิต'หากินได้"มีผับเพื่อชีวิต มีเพลงเพื่อชีวิต เข้าสู่ตลาด สุชาติกล่าวต่อว่า ฝ่ายซ้ายเอาคำว่า "น้ำนิ่ง"ของเจือ สตะเวทินในปี 2514 ไปเปลี่ยนเป็นคำว่าน้ำเน่า แล้ววิจารณ์งานของฝ่ายอนุรักษ์นิยมว่าน้ำเน่า แต่ที่จริง"ถ้าเป็นเพื่อชีวิตแบบกลไก คุณก็จะเป็นน้ำเน่าได้เหมือนกัน"
เมื่อ กลับมาทำ "ช่อการะเกด"สุชาติสะท้อนว่า แม้จะยังมีอะไรซ้ายๆ ตกค้างอยู่ แต่ก็ยัง "มีบางสิ่งบางอย่างที่หลุดจากหล่ม"กลายเป็นวรรณกรรมสร้างสรรค์ที่ตั้งคำถามปลายเปิดมากขึ้น และงานแบบการ์เซีย มาร์เกซก็มีส่วนสร้างแนวทางสร้างสรรค์นั้น
ถึงวันนี้ ผมเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมซ้ายเพื่อชีวิตจึงน้ำเน่าแน่นิ่ง ทำไมผมจึงไม่นิยมงานวรรณกรรมพวกซ้ายกากๆ และทำไมบางซ้ายกลไกจึงหันหลังให้ประชาชน