ความในใจถึงแนวร่วม กปปส. ผู้สร้างฐานพลกำลังให้ระบอบทักษิณทุกท่าน

หมายเหตุ: เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.ipattt.com/2014/taksin-power/ ประชาไทเห็นว่าน่าสนใจจึงขออนุญาตผู้เขียนนำมาเผยแพร่อีกครั้ง

20 ปีกับทักษิณ
เท้าความถึงตอนที่คุณทักษิณเข้าสู่การเมืองในปี 2537 จากการชักชวนของ พลตรีจำลอง ถึงวันนี้ 21 ปีแล้ว นั้นหมายความว่าเด็กๆ ที่เกิดช่วงนั้นตอนนี้บรรลุนิติภาวะและได้ยินชื่อของทักษิณตั้งแต่เกิด ในเวลานั้นเพิ่งมีการคิดค้นโทรศัพท์มือถือระบบดิจิตอลและคนทั่วไปยังไม่เข้าใจอินเทอร์เน็ตและคำว่าโลกาภิวัตน์ และเมื่อเกิดรัฐประหาร 2549 ทักษิณได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศตลอดถึงวันนี้ (ไม่นับที่กลับมาขึ้นศาลในปี 2551)

ถึงเวลานี้ ถ้าเราจะพยายามไล่เรียงชื่อใครในวงการเมือง นักการเมืองคนสำคัญในรอบ 20 ปีนี้มีนับร้อยคน แต่จะพบว่าชื่อของทักษิณกลับอยู่ยงคงกระพันที่สุด และที่สำคัญ หลายคนยังคงไล่เขาและน้องเขาอยู่เลยทั้งๆ ที่เขาไม่ได้อยู่ในประเทศแล้วมากว่า 7 ปี

ทำไม? คนเลวขนาดนี้ไม่น่ามีที่ยืนในสังคมได้? ผมคิดว่านอกจากความดื้อด้านของเขาแล้วความคงกระพันของเขาส่วนหนึ่งมาจากการตกเป็น political tools คือหลายคนใช้เขาเป็นตัวแทนของความเลวมาตลอดเวลา เขาจึงอยู่ยงคงกระพันดุจดั่งซาตานบอสใหญ่ในเกมส์ออนไลน์ที่ฆ่าแล้วฟื้นได้ตลอด (ถ้าตายถาวรเกมก็จบไม่มีใครมาเล่นอีก)

ผมยอมรับว่าเคยชอบทักษิณสมัยเรียนในปีที่คนกรุงเทพส่วนใหญ่ก็ชอบและเลือกเขาเข้ามาอย่างถล่มทลายสืบเนื่องจากการปฎิรูปการเมือง รธน.2540 และเขาโชว์ผลงานปฏิรูประบบราชการยกใหญ่ ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจบางส่วนสร้างฐานศัตรูไว้มากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านมาเนิ่นนาน ผมก็ตาสว่างและไม่ได้ชอบเขาแล้วเพราะพบว่าจริงๆ เขาเห็นแก่ตัวและไม่ได้รักมวลชนของเขาเลยจริงๆ เขาไม่เห็นหัวนักวิชาการเลย และผมก็ตาสว่างซ้ำสองเมื่อพบว่าคนทุกคนล้วนหาประโยชน์ใส่ตัวกันทั้งนั้นไม่ว่านักการเมืองหรือใครก็ตามที่ต้องการปฏิรูปการเมืองนั่นทำให้ผมไม่เคยเชียร์ใครนอกจากหันกลับมายึดถือหลักการ

No man is good enough to govern another man without that other's consent. - Abraham Lincoln_01A
ไม่มีใครดีเลิศประเสิรฐพอที่จะไปปกครองคนอื่นได้ ตราบเท่าที่ยังไม่ได้รับความยินยอมพร้อมใจจากคนเหล่านั้น

ระบอบทักษิณ ไม่ได้อยู่ที่ตัวทักษิณ จึงมีคำถามที่กระบวนการปฏิรูป
ผมไม่ได้เชื่อว่ามีใครมาจากไหนดีพอจะอยู่ๆ มาปกครองเราได้ มนุษย์นั้นอาจมีคนจิตใจดีอยู่บ้างจริงๆ แต่เมื่อต้องการมีอิทธิพลทางการเมือง เขาต้องรวมกลุ่มคละกัน compromise กัน นั่นทำให้ทุกคนเหมือนกัน ไม่มีกลุ่มไหนดีไปกว่ากัน ซึ่งเรื่องนี้อธิบายได้ด้วยคณิตศาสตร์ ส่วนคนที่ดีสุดขั้วและคนที่เลวสุดขั้วนั้นไม่มีใครรู้จักเขาหรอก คนดีที่แท้จริงที่ไหนเขาจะทำให้สังคมรู้กันอย่างกว้างขวางว่าตัวเองเป็นคนดีกัน?

อ้างอิงคำของ @MrBancha “คำว่าระบอบทักษิณนั้น อยู่ที่หัวใจของคนที่สนับสนุนเขาทุกคน มันไม่ได้อยู่ที่ตัวของเขาเลย” (น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทวีตคุณทฤษฎีข้างล่าง) ดังนั้นการกำจัดเขาด้วยวิธีนอกระบบไม่มีทางที่จะทำให้เขาออกไปได้ แต่ยิ่งทำให้หัวใจของกองเชียร์ของเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ รัฐประหารก็แล้ว ปราบปรามก็แล้ว ใช้สื่อรัฐโจมตีก็ผ่านมาแล้ว ผังล้มเจ้าก็แล้ว เขากลับยังแข็งแกร่งจนน่าเป็นห่วง จน กปปส.ลุกขึ้นมาหวังปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เนื้อหาการปฏิรูปนั้นผมเห็นว่าก็น่าสนใจมาก แต่กระบวนการซึ่งเป็นการละเลยสิทธิของกองเชียร์ของเขา มันทำให้คนที่เลือกเขาเจ็บปวด และส่งผลระบอบทักษิณจะยิ่งแข็งแกร่งไปกว่านี้ถึงแม้ทักษิณเกิดบังเอิญจะตายจากไป ระบอบนี้ก็จะอยู่ไปอีกหลายสิบปี
 

เรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมา
เราควรเรียนรู้จากบทเรียนอันขื่นขม ไม่ว่าจะตัดสิทธิทางการเมือง ยุบพรรคไทยรักไทย ยุบพลังประชาชน ถอดนายกฯโนมินีจากตำแหน่ง ตุลาการภิวัฒน์ มีคณะปฏิรูปอีกหลายคณะ กรณีจลาจล 2553 และที่สำคัญที่เป็นยาอายุวัฒนะสำหรับทักษิณคือ การรัฐประหาร 2549 จะเห็นว่าทุกครั้งยิ่งทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น นั้นเพราะอำนาจต่างๆ จากคนที่ต่อต้านเขาดันไปทำลายเสียงของประชาชนที่เลือกเขามา ทำให้เขาแกร่งขึ้นไปอีก สรุปแล้วทักษิณไม่ต้องทำอะไรมาก แถมยังทำลายตัวเองจากการสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดฉาวโฉ่จนแม้ นปช.ยังร้องยี้ แต่ กปปส.ก็กลับไม่ฉวยโอกาสนั้นไว้ด้วยการหาเสียงและลงสมัครรับเลือกตั้ง กลับมาปิดกรุงเทพฯ ทำลายฐานเสียงที่เป็น swing vote จนความนิยมคุณชูวิทย์กับคุณชัชชาติพุ่งขึ้นกันอีกสองสามเท่าตัว เราอาจจะต้องมาตั้งคำถามว่าเรากำลังทำตัวเองเสียโอกาสอันดีหรือเปล่า?
 

ลองเข้า google map และค่อยๆ ซูมเอาท์ออกมาเรื่อยๆ จากภาพด้านบนนี้คุณเห็นแยกราชประสงค์
เห็นถนนราชดำเนิน เห็นอนุสาวรีย์ชัยไหมครับ? ประชาชนยังมีอีกมากมายที่มีความคิดเห็นหลากหลายครับ
 

ผมคิดว่าสิ่งที่ กปปส.และผู้สนับสนุนทำตอนนี้ควรจะต้องนำมาทบทวน รวมทั้ง status ต่างๆ ที่ผู้สนับสนุนโพสและมีคนไลค์มากมายก็ดูเหมือนกำลังหลงทาง มันเหมือนคุณเล่นเกมส์ของคุณเองในห้อง สนุกกันเอง สะใจจากการปิดกรุงเทพฯ กันเอง และคุณยอมรับหรือไม่ว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดไม่ได้ทำให้หัวใจของระบอบทักษิณซึ่งแยกร่างไปอยู่ในกลุ่มคนจำนวนมากได้เปลี่ยนแปลงไปเลย เสียงนกหวีดเหล่านี้มันเข้าไม่ถึงหัวใจของเขาเลย มวลมหาประชาชนที่คุณเห็นจำนวนมากมายมหาศาลเมื่อคุณขยายแผนที่ประเทศไทยออกมาก็เหมือนกับเม็ดแตงโมที่วางบนโต๊ะใหญ่ๆ เจ็ดเม็ดเท่านั้น ผมต้องการจะบอกเผื่อหลายๆ ท่านจะลองช่วยกันทบทวนนะครับ
 

เราชอบใช้คำว่าสันติ-อหิงสา (Non-violent resistance) โดยรับอิทธิพลจากคานธี
แต่ในเนื้อแท้คานธีบอกว่าเราต้องมอบความจริง (truth) และความรัก (love)
ให้กับศัตรู (หรือผู้คิดต่าง) : Political book ISBN 978-1-4093-6445-0

ชัยชนะทางการเมือง เริ่มด้วยการเอาชนะใจ
ที่ผ่านมาหลายคนอาจภูมิใจว่าเคยแสดงความเห็นในการเกลียดทักษิณต่างๆ นานา ใช้ความแหลมคมเรียกไลค์ได้มากมาย แต่ความสำเร็จที่แท้จริงวัดจากที่ผ่านมาคุณเคยเปลี่ยนใจเพื่อนเสื้อแดงของคุณให้มาเห็นด้วยกับคุณได้สัก 3-4 คนบ้างหรือเปล่า? เปลี่ยนพลังความรักชาติในตัวคุณตอนนี้มาเป็นพลังในการรณรงค์อย่างสร้างสรรค์กันดีไหม พวกเราก็โตแล้วเคยผ่านการทำงานเป็นทีมกันมาแล้ว เคยโน้มน้าวคนกันมาแล้ว เคยเห็นโลกกว้างกันมาแล้ว ทำความเข้าใจคนใกล้ตัว สร้างความรักให้กับคนคิดต่างเช่นคานธี เรื่องนี้เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าทุกคนต้องการปฏิรูปอย่างจริงจังผมเชื่อว่าทุกคนทำได้ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราหลีกหนีการเมืองไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งนี้จะลองออกมา Vote No กันให้เยอะๆ ถึงแม้ทักษิณจะชนะแต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการตัดกำลัง monster ให้อ่อนแรงลงเรื่อยๆ

จากการดู Blue Sky มาระยะหนึ่ง ผมพูดตรงๆ ว่าหลายคนกำลังหลงทาง การปฏิรูปที่แท้จริงคือปฏิรูปวิธีคิดของตัวเองในการเอาชนะใจคนอื่นให้ได้ก่อน แล้วจึงค่อยปฏิรูปสิ่งที่กว้างกว่ากันต่อไป

เชื่อผมเถอะครับ ผมเบื่อทักษิณเต็มทนแล้วด้วยความสัตย์จริง…

คำว่าระบอบทักษิณหรือระบอบอาญาสิทธิ ทุนนิยมจากการเลือกตั้ง (elected capitalist absolutism) นั้น ผู้ที่คิดและนิยามไว้คืออาจารย์เกษียร เตชะพีระ ครับ ถึงวันนี้อยากให้ผู้ที่อ้างอิงคำว่าระบอบทักษิณบ่อยๆ ได้กลับไปฟังอาจารย์ถ้ามีโอกาสครับ อย่างน้อยก็ฟังจนจบที่ลิงก์นี้ http://www.youtube.com/watch?v=8NYdtSPX0Po