Quantcast
Channel: ข่าว
Viewing all articles
Browse latest Browse all 20494

แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร?

$
0
0

ท่ามกลางความขัดแย้งและความรุนแรงทางการเมืองในประเทศไทยในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา   มีเพื่อนแพทย์หลายคนเข้ามาพูดคุยสอบถามผมเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองไทยด้วยความเป็นห่วง   ทุกคนแปลกใจเมื่อผมยืนยันที่จะกลับไปอยู่อาศัยในประเทศไทยเมื่อเรียนจบไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร   เพื่อนแพทย์คนหนึ่งบอกผมให้พิจารณาให้รอบคอบเนื่องจากเขามีคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยที่ดีขึ้นมากหลังจากที่ครอบครัวอพยพภัยสงครามมาจากประเทศหนึ่งในตะวันออกกลาง   เพื่อนชาวอินเดียบอกว่าเขาเข้าใจเป็นอย่างดีถึงความทุกข์จากการอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความไม่เท่าเทียมระหว่างชนชั้น   อาจารย์แพทย์ชาวอเมริกันพูดทีเล่นทีจริงให้ผมไปคุยกับเพื่อนชาวอาหรับถึงวิธีการใช้ชีวิตท่ามกลางระเบิดและกระสุนปืนกลางเมืองหลวง   ผมได้แต่ยิ้มและหัวเราะเบาๆพร้อมๆกับความรู้สึกกังวลและเสียใจที่อยู่ภายใน

ผมมักจะมีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างจากคนที่อยู่ในสังคมรอบตัวผม   ด้วยความต่างนี่กระมัง ทำให้ผมเฝ้าติดตาม ศึกษาทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในสังคมไทย   พยายามตั้งคำถามและหาคำตอบว่าเพราะอะไรเราจึงเห็นต่างกัน เราจะอยู่กับความขัดแย้งนี้ได้ไหม เราจะจัดการความโกรธเกลียดชังที่มีอยู่ในตัวเราอย่างไร เราจะต้องทนอยู่ในสังคมที่มีการรัฐประหารหรือการฆ่ากันกลางเมืองทุกๆสิบห้าปีไปอีกนานแค่ไหน   สุดท้ายผมก็ยังไม่มีคำตอบที่สมบูรณ์ให้กับตัวเอง   แต่ผมก็อยากจะแบ่งปันความคิดและประสบการณ์ของผมในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้   เผื่อว่ามันจะสามารถทำให้ความรุนแรงและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ลดน้อยลงแม้แต่นิดเดียวก็ยังดี

จากการติดตามปัญหาทางการเมืองมาหลายปีผ่านสื่อ รวมถึงข้อคิดเห็นต่างๆในโลกโลกออนไลน์   เราจะเห็นแนวโน้มของความขัดแย้งและอารมณ์รุนแรงในระดับบุคคลและสังคมที่เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ  จากจุดเริ่มต้นของความไม่รู้ ความเห็นต่างไม่เข้าใจและไม่ไว้วางใจกัน  ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรงระลอกแล้วระลอกเล่า   ความกลัวความโกรธที่ถูกปลุกเร้ามากขึ้นโดยแกนนำ สื่อ และ มวลชนทั้งจากฝ่ายเดียวกันและฝ่ายตรงกันข้าม   ได้พัฒนาขึ้นเป็นความเคียดแค้นเกลียดชังต่อกัน   หลายครั้งความรู้สึกเหล่านี้ส่งผลให้เกิดความคิดและการกระทำที่รุนแรง อันนำมาซึ่งความสูญเสียในที่สุด   มันเป็นความทุกข์ทรมานที่คนไทยทุกคนคงรับรู้สัมผัสได้  

ผมเคยไปร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมของทั้งสองสีเสื้อ   ต่างฝ่ายต่างมีมวลชนจำนวนมาก   ฝ่ายหนึ่งประกอบด้วยชนชั้นกลางในกรุงเทพและเมืองใหญ่เป็นส่วนใหญ่   มีเพื่อนฝูง และคนรู้จักที่ผมเคารพนับถือเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก   อีกฝ่ายยกขบวนกันมาไกลจากหลายจังหวัด   มีทั้งคนหนุ่มสาว ผู้เฒ่าและวัยกลางคน   ทั้งสองกลุ่มมีความต่างกันหลายอย่าง ทั้งสีเสื้อ การแต่งตัว หน้าตา มือตบ ตีนตบ นกหวีด   อุดมการณ์ความฝันทางการเมืองก็ต่างกัน   แกนนำของทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการให้ข้อมูลความรู้ สร้างความหวัง รวมทั้งเพาะบ่มความเกลียดชังและความรุนแรงต่อฝ่ายตรงกันข้าม   แต่ทั้งสองฝ่ายก็มีความเหมือนกันหลายอย่าง   พวกเขามีความปรารถนาที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เชื่อว่าชาติจะพัฒนารุ่งเรืองได้ถ้าตนเองชนะ   ทั้งสองกลุ่มมีอารมณ์ที่ฮึกเหิม มีแววตาที่มุ่งมั่น มีความโกรธเกลียดในระดับเดียวกัน   แต่ที่สำคัญที่สุด พวกเขาล้วนมีชีวิตเลือดเนื้อ   เป็นคนเหมือนกัน ไม่ต่างกันเลย

ความขัดแย้งทางการเมืองรอบนี้ดำเนินมาเกือบจะสิบปีแล้ว   ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนสรุปว่าเราจะต้องอยู่กับความขัดแย้งนี้ไปอีกนาน   มันเป็นความจริงที่โหดร้ายที่ทุกๆอย่างไม่สามารถตกผลึกได้ในชั่วข้ามคืน   ผมเริ่มหมดหวังกับผู้นำส่วนใหญ่ของขั้วขัดแย้งทั้งสองฝ่ายที่นอกจากจะไม่สามารถบรรเทาความแตกแยกในชาติได้ ซ้ำยังพยายามสร้างทางตัน เพิ่มเงื่อนไขขัดแย้งมากขึ้นเรื่อยๆจนมีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงเป็นระยะ   ชัดเจนว่าความตึงเครียดทางการเมืองจากด้านบนได้ส่งผลกระทบลงมาสู่ระดับประชาชนคนทั่วไป   หลายๆครั้งผมเห็นความเกลียดชังเหล่านี้แทรกลึกไปถึงระดับบุคคล ลงไปในความสัมพันธ์ของครอบครัว เพื่อนฝูง ศิษย์อาจารย์   และความรู้สึกด้านลบที่เกิดจากความขัดแย้งยังดำเนินไปอย่างไม่มีท่าทีที่จะสิ้นสุด   จนไม่นานนี้ผมเริ่มมีความคิดว่า การแก้ปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้ เราอาจจะต้องเริ่มจากระดับล่างขึ้นสู่ระดับบน เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงรอบตัวเราในระดับประชาชนคนธรรมดา

คนเราล้วนเติบโตอย่างแตกต่าง ถูกบ่มเพาะผ่านประสบการณ์ส่วนบุคคล ครอบครัวและสังคมที่หลากหลาย รับข้อมูลข่าวสารบ้านเมืองจากต่างแหล่ง   แล้วทำไมเราจะต้องคิด ชอบหรือเลือกเหมือนกัน   อุดมคติหรือคุณค่าทางบ้านเมืองของคนฝ่ายหนึ่งคือการเชิดชูพิทักษ์ไว้ซึ่ง คุณธรรม ชาติ ศาสนา และ สถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง   ขณะที่อีกฝ่ายเรียกร้องสิทธิความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เสรีภาพ ความเสมอภาคและประชาธิปไตย   ไม่ใช่ว่าแต่ละฝ่ายปฏิเสธคุณค่าของฝ่ายตรงข้ามโดยสิ้นเชิง เพียงแต่พวกเขาลำดับความสำคัญของคุณค่าเหล่านี้ไม่เท่ากัน   ค่านิยมในใจที่ไม่เหมือนกันนี้ หลายครั้งนำมาซึ่งการรับรู้ เข้าใจและรู้สึกต่อสถานการณ์ที่ต่างกัน นำมาซึ่งความคิด การพูดและการกระทำที่ต่างกัน เราจึงมีความคิดเห็นและสนับสนุนกระบวนการทางการเมืองที่ต่างกัน   แต่หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าทั้งสองฝ่ายล้วนยึดถือคุณค่าอันดีงาม ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องสิ่งพวกเขาคิดว่าดีต่อชีวิตของพวกเขาและประเทศชาติ  

มันจึงเป็นเรื่องปกติมากๆที่แต่ละคนในสังคมจะเห็นต่างทางการเมือง   แต่มันคงเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากๆถ้าเราเห็นด้วยต่อการใช้ความรุนแรงที่เกินขอบเขตต่อผู้เห็นต่าง   เป็นที่น่าเสียดายที่หลายๆคนหลงลืมข้อเท็จจริงเหล่านี้

ก่อนที่จะกล่าวถึงกลุ่มคนที่เป็นคู่ขัดแย้ง ผมอยากจะพูดถึงกลุ่มคนที่เป็นกลาง พลังเงียบ ไทยเฉยหรือไทยอดทน   ผมสังเกตว่าคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่าสีใดๆทั้งในชีวิตจริงและโลกออนไลน์   ผมยอมรับในความเป็นปัจเจกและขอคารวะความอดทนของพวกท่าน   ผมเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ประเทศก้าวผ่านวิกฤตไปได้   พวกท่านเป็นกำลังสำคัญเสมอมาในการพัฒนาฟื้นฟูยามที่ประเทศหลุดพ้นจากหล่มโคลนของความขัดแย้ง   ผมสนับสนุนให้ประชาชนกลุ่มนี้รักษาจุดยืนของความเป็นกลางนี้ไว้   ขณะเดียวกันผมอยากที่จะได้ยินเสียง ได้อ่านความคิดและได้เห็นการแสดงออกของท่านมากขึ้น    เพราะผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้สติกับสังคมที่แตกแยก ลดความสุดโต่งจากสองฝ่ายที่ขัดแย้ง และรังสรรค์ทางออกที่ประนีประนอมเพื่อนำไปสู่ความปกติสุขในระยะยาว

ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องหนึ่ง   ผมคิดว่าผมพอเข้าใจความรู้สึกด้านลบที่คนกลุ่มหนึ่งมีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเวลานี้พอสมควร เพราะผมเคยมีความรู้สึกอย่างนี้มาก่อนและผมเห็นว่ามันเป็นความรู้สึกรุนแรงที่กลุ่มคนทั้งสองฝ่ายมีคล้ายกัน   ผมไม่เห็นด้วยกับการที่กองทัพเข้ามามีบทบาททางการเมืองเริ่มจากการรัฐประหารในปี2549   ความโกรธเกลียดชังในตัวผมต่อเหล่าทหารขึ้นสูงสุดในช่วงปฏิบัติการกระชับพื้นที่เดือนเมษายนถึงพฤษภาคมปี2553   จนกระทั่งเย็นวันหนึ่ง ผมตัดสินใจซื้อขนมและน้ำดื่มนำไปให้กลุ่มทหารที่ตรึงกำลังอยู่หน้าคอนโดของผม ผมบอกนายทหารท่านหนึ่งว่าผมไม่เห็นด้วยกับการที่พวกเขาใช้อาวุธสงครามกับประชาชนจนมีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย   นายทหารท่านนั้นขอโทษผมและกล่าวว่าเขาและเพื่อนทหารต้องทำตามคำสั่ง ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากทำหน้าที่นี้ เพราะเขารู้ว่าผู้ชุมนุมก็เป็นคนไทยด้วยกัน เบื้องหลังเครื่องแบบและอาวุธของ พวกเขาก็เป็นคนไทย มีคนรักและครอบครัวรออยู่ที่บ้านเหมือนกัน   เราจบบทสนทนาและไหว้อำลาซึ่งกันและกัน   หลังจากเหตุการณ์นั้น แม้ว่าผมยังคงไม่เห็นด้วยกับบทบาทของสถาบันทหารในการเมืองไทยเหมือนเดิม แต่ความโกรธที่มีอยู่ภายในต่อทหารในระดับบุคคลนั้นลดลง

ผมเคารพเพื่อนและคนรู้จักที่เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ แม้เห็นจะเห็นต่างจากเนื้อหาของการประท้วงนั้นหลายประการ แต่มันก็เป็นสิทธิในการแสดงออกโดยชอบธรรม และผมก็มีสิทธิในการร่วมชุมนุมเหมือนกันในบางเวลามิใช่หรือ   มองในแง่บวกมันเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการประชาธิปไตย เป็นปรากฏการณ์ที่แสดงถึงความตื่นตัวทางการเมืองของคนทุกชนชั้น   แต่เราทั้งสองฝ่ายคงต้องค่อยๆเรียนรู้ว่าจะใช้สิทธิของเราได้มากน้อยแค่ไหนโดยไม่ไปกระทบกับสิทธิของผู้อื่น และแสวงหาข้อตกลงร่วมกันว่าเจ้าหน้าที่สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อคงความสงบของบ้านเมือง   และที่สำคัญกลุ่มคนที่ขัดแย้งกันทั้งสองฝ่ายคงต้องช่วยกันติดอาวุธทางความรู้ให้มากขึ้นเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้นำสายเหยี่ยวที่พร้อมจะนำมวลขลเข้าประหัตประหารกัน   เราคงต้องศึกษาประวัติศาสตร์ของทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น ว่าเราจะสามารถต่อสู้กันทางการเมืองอย่างไร จะผลักดันอุดมการณ์ทางการเมืองที่มีคุณค่าของแต่ละฝ่ายได้อย่างไร โดยที่ความขัดแย้งไม่จบลงด้วยการเสียเลือดเนื้อหรือสงครามกลางเมือง

มีคำกล่าวเตือนว่าเพื่อนฝูงและคนรู้จักไม่ควรพูดคุยเรื่องการเมือง เพราะอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์   เราได้ยินบ่อยๆว่าครอบครัวทะเลาะกันเพราะอยู่กันคนละสี เห็นการ“block”หรือ“unfriend”กันในโลกออนไลน์   บางครั้งเราอยู่ในการถกเถียงทางการเมืองที่เต็มไปด้วยการยั่วยุ อารมณ์รุนแรงและคำหยาบคาย   ผมทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการงดพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้   ในบางสังคมเราอาจต้องหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หากตัวเราหรือคู่สนทนาไม่พร้อมหรือถ้ามีแนวโน้มที่จะสร้างความบาดหมางในความสัมพันธ์   แต่ผมอยากสนับสนุนให้ประชาชนคนธรรมดาอย่างเราท่านสามารถพูดคุยรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองได้อย่างสุภาพและเสรี   ผมโชคดีที่มีเพื่อนและคนรู้จักที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างอยู่รอบตัว   ผมเลือกที่จะไม่“unfriend”กับเพื่อนที่เห็นต่าง รวมถึงยินดีที่จะพูดคุยเรื่องการเมืองกับคนรู้จักเหล่านั้น   จากประสบการณ์มันไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์รอบตัวของผมลดระดับน้อยลงเลย   เพราะเราไม่ได้พูดคุยเพื่อเอาชนะ หรือเพื่อโน้มน้าวให้เปลี่ยนฝั่ง เราหลีกเลี่ยงการยั่วยุอารมณ์ที่รุนแรงและคำหยาบคายในบทสนทนา   บ่อยครั้งที่พบว่าเราเห็นเหมือนกันในบางประเด็นแม้เราจะอยู่กันคนละสีเสื้อ   ผมเชื่อว่าเรายังสามารถที่จะพูดคุยหยอกล้อกันและร่วมโต๊ะอาหารกันได้เหมือนเดิมแม้จะยึดถืออุดมการณ์ทางการเมืองที่ต่างกัน   การพูดคุยในรูปแบบนี้ ทำให้ผมได้รับรู้ข้อมูลและมุมมองใหม่ๆ ช่วยให้ผมได้วิเคราะห์แยกแยะอันจะนำมาซึ่งความเข้าใจและปัญญาที่มากขึ้น สอนให้ผมอดทนและเคารพต่อความเห็นต่าง  มันทำให้อารมณ์และความคิดที่สุดโต่งลดลง และ ที่สำคัญที่สุดทำให้ผมตระหนักว่าคนที่เห็นต่างล้วนมีตัวตนอยู่จริง และ เราก็ล้วนเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่าไม่ได้มากน้อยไปกว่ากันเลย

สุดท้ายนี้ หวังว่าเราจะผ่านวิกฤตทางการเมืองนี้ไปได้อย่างไม่รุนแรง   เริ่มที่ตัวเรา เริ่มที่คนแต่ละคนในระดับประชาชนเรียนรู้ที่จะอยู่ในความขัดแย้งอันเจ็บปวดนี้ร่วมกัน   ทำความเข้าใจว่าคนแต่ละคนไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อสีเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องชอบหรือเกลียดเหมือนกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้   ฝึกฝนที่จะอดทนและเคารพซึ่งกันและกัน   ศึกษาหาความรู้เพื่อพูดคุยรับฟังและแสดงออกทางการเมืองกันอย่างมีสติและอารยะ เพื่อให้ความโกรธกลัวเคียดแค้นที่มีอยู่ลดลง   พร้อมกันปฏิเสธความรุนแรง และ ให้คุณค่ากับชีวิตของคนอย่างเท่าเทียม   เมื่อนั้นเสียงของประชาชนหลายๆคนคงจะประสานกันได้อย่างมีพลังพอที่จะส่งไปถึงผู้กุมอำนาจในสังคม ให้ร่วมกันนำพาประเทศชาติผ่านความขัดแย้งนี้ไปอย่างประนีประนอม เพื่อลูกหลานของเราจะได้อยู่อาศัยในสังคมที่สงบสุขและดีกว่าวันนี้

 

 


 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

Viewing all articles
Browse latest Browse all 20494

Latest Images

Trending Articles


มท.1 เตรียมใช้นโยบาย "ส่งเสริม" แทน "ปกป้อง" สถาบันฯ


การเขียนแม่ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ 3D ด้วย Artcam (ตอนที่ 1)


ีรถตู้เดอะมอลล์บางกะปิ หนองจอกหมดกี่โมง


ใหม่ All New ISUZU D-MAX Space Cab 2 ประตู 2024-2025 ราคา อีซูซุ ดีแมคซ์ 2...


อย่างสุด! Isuzu MU-X จัดเต็มมาพร้อมกับรูปแบบ Off-Road สไตล์ Hamer 4×4 Model


เครื่องปั้นบัวลอย


การ SUM ข้าม Sheet Microsoft Excel


Notability อัปเดตใหม่เพิ่มฟีเจอร์เปลี่ยนลายมือให้เป็นตัวพิมพ์ภาษาไทยได้แล้ว


ป่าท้อสิบหลี่ ซีรี่ย์จีนสื่อรัก! หลิวรุ่ยหลิน – เดซี่ ไม่สมหวังในเรื่องก็ช่าง...


วิธีนับข้อมูลใน Pivot แบบไม่นับตัวที่ซ้ำกัน (Distinct Count)